ข่าวสาร

ย้อนกลับ

น้ำมันเบรคจำเป็นไหม เปลี่ยนน้ำมันเบรคทั้งทีควรเลือกยังไงดี ดั๊กแฮมส์ | Duckhams

||  Duckhams  ||  น้ำมันเครื่องเบนซิน  ||  น้ำมันเครื่องดีเซล  ||  น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์  ||  น้ำมันเกียร์  ||  น้ำมันเบรค  ||  น้ำมันไฮดรอลิค  ||  น้ำยาหล่อเย็น  || ตัวแทนจำหน่าย


.

 

Duckhams สูตรไหนเหมาะกับอะไรบ้าง <<คลิ๊ก


สาระควรรู้โดยน้ำมันเครื่อง Duckhams
 - น้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์สำคัญยังไง ?
 - น้ำมันเบรก dot3 กับ dot4 ต่างกันอย่างไร ?
 - ราคาน้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์แพงไหม แล้วน้ำมันเบรคซื้อที่ไหนดี ?
 - เปลี่ยนน้ำมันเบรคทั้งทระบบราคาเท่าไหร่ ที่ไหนดี ?


.

 

น้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์สำคัญยังไง การเลือกน้ำมันเบรคที่ดีควรทำยังไง

          อุบัติเหตุเกี่ยวกับบนท้องถนนส่วนหนึ่งเกิดจากกาปัญหาระยะเบรค เบรคไม่ทัน หรือเบรคแตก ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้ส่วนใหญ่มากจากระบบเบรคเป็นสำคัญ ระบบเบรคที่ดีนั้นย่อมให้ความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ แม้ระบบเบรคจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ภายในรถของเรา แต่ก็ต้องถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการขับขี่ในการทำหน้าที่ลดความเร็วของการขับขี่ลง ซึ่งหากไม่ดูแลให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานยู่เสมอแล้วอาจทำให้เกิดอันตรายได้ทั้งตัวผู้ขับขี่ และผู้ใช้ถนน นอกจากชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบเบรค ไม่ว่าจะเป็นจานเบรค แม่ปั๊มเบรก คาลิปเปอร์เบรค ผ้าเบรค ที่ต้องปฏิบัติงานอย่างถูกต้องแล้ว เรายังต้องใช้น้ำมันเบรคในการเข้าไปช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในระบบเบรคให้การทำงานของระบบเบรคเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น จนกล่าวได้ว่า "น้ำมันเบรค" เป็นปัจจัยสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่จะให้ความมั่นใจกับผู้ขับขี่ทุกครั้งที่มีการเหยียบเบรค

          น้ำมันเบรค เป็นของเหลวซึ่งเป็นสารหล่อลื่นชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของอีเทอร์(Ether) และ ไกลคอล (Glycol) เป็นส่วนประกอบทำให้น้ำมันเบรคสามารถดูดซับความชื้นได้ดีมากขึ้น มีคุณสมบัติในการหล่อลื่น ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลังโดยของเหลวในระบบเบรกของรถยนต์ โดยเป็นตัวช่วยส่งแรงดันจากแม่ปั๊มเบรกไปยังลูกสูบ ในขณะที่เราทำการเบรกรถที่แป้นเบรคเพื่อให้เกิดการเสียดสีระหว่างผ้าเบรกแรงดันที่เหยียบจะถูกถ่ายทอดผ่านของเหลว(น้ำมันเบรก)ในระบบไปห้ามล้อ เพื่อลดความเร็วของรถลง หากเลือกนำน้ำมันเบรคคุณภาพต่ำมาใช้งาน อาจนำไปสู่ปัญหาน้ำมันเบรคไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลังให้กับระบบเบรคได้อย่างเต็มที่ จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่ตามมา ได้แก่ น้ำมันเบรคไ่ม่สามารถทนต่อความร้อนจากการเบรคได้, น้ำมันเบรคเสื่อมคุณภาพเร็วจนเบรคไม่อยู่ เบรคจม หรือเรียกว่า เบรคแตก, มันเบรคดูดซับความชื้นไว้มากจนส่งผลทำให้เกิดสนิมภายในชิ้นส่วนได้เมือใช้ไปนานๆ
     ผลนั้นจึงมาตกกับผู้ใช้รถที่อาจจะเจออุบัติเหตุได้ทุกเมื่อหากน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพ เพราะตัวน้ำมันเบรก ไม่มีไฟเตือนที่หน้าปัดเมื่อเสื่อมสภาพ ต่างกับยางและผ้าเบรกที่ยังพอรู้สึกได้ ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นตรวจสอบน้ำมันเบรคอยู่เสมอ

          น้ำมันเบรกที่ดี ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้
     1. มีคุณสมบัติสารหล่อลื่นที่ดีป้องกันการเสียดสี : เพื่อลดการสึกหรอภายในระบบเบรคที่มีการเสียดสีของลูกสูบเบรค ลูกยางเบรก ภายในแม่ปั๊มเบรค ลูกปั๊มเบรค ที่เกิดขึ้นระหว่างระบบเบรคทำงาน
     2. มีความหนืดที่เหมาะสม : ความหนืดที่ยืดหยุ่นได้ไม่ข้นเกินไป ใช้ได้ทั้งในอุณหภูมิที่ร้อนและเย็นจัด
     3. ไม่กัดกร่อนโลหะหรือยาง : ไม่ทำให้ซีลยางแข็งตัวหรืออ่อนตัว และไม่ทำให้ซีลยางหดตัวหรือขยายตัวเกินขนาด จนทำให้ซีลบวม เพื่อป้องกันการรั่วซึม
     4. มีจุดเดือดสูง ระเหยได้ยาก : เวลาเราเหยียบเบรคที่ความเร็วสูงหรือบรรทุกหนัก อุณหภูมิที่ผ้าเบรคและจานเบรคจะสูงมากความร้อนดังกล่าวจะถ่ายเทมายังน้ำมันเบรค ถ้าน้ำมันเบรคมีจุดเดือดต่ำจะสามารถระเหยและกลายเป็นไอได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลัง หรือทำหน้าที่ไฮดรอลิกในระบบเบรคได้ จะทำให้เกิดเบรคไม่อยู่ เบรคจม หรือเรียกว่า เบรคแตก
     5. คงสภาพได้นาน : สามารถคงสภาพรักษาคุณสมบัติต่างๆ ได้นานขึ้น
     6. เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลังเบรกจากแป้นสู่ระบบได้ดี

          เราจึงควร "เลือกน้ำมันเบรค" ให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อเข้าไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในระบบให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ น้ำมันเบรคในปัจจุบันมีวางจำหน่ายให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่เรามักจะเลือกใช้ยี่ห้อเดิมหรือตามที่ศูนย์บริการเปลี่ยนให้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ DOT4 (สังเกตได้จากที่ระบุไว้ข้างขวด) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการเลือกใช้น้ำมันเบรคที่มี DOT สูงกว่านั้นไม่ผิด แต่จะมีค่าตัวสูงกว่าเดิมเล็กน้อย การเปลี่ยนยี่ห้อน้ำมันจากที่เราเคยใช้อยู่นั้นสามารถทำได้แต่ควรถ่ายของเดิมทิ้งให้หมดแล้วเลือกเติมยี่ห้อใหม่ที่มีค่า DOT ที่เท่ากันหรือสูงกว่าเท่านั้น

 ย้อนกลับ


.

 

น้ำมันเบรก dot3 น้ำมันเบรค dot4 และน้ำมันเบรค dot5 แตกต่างกันอย่างไร

          ในปัจจุบันเรามักจะเห็นคำว่า "DOT" ประกอบอยู่ข้างขวดน้ำมันเบรคทุกครั้ง แท้จริงแล้วคำดังกล่าวเป็นชื่อย่อของมาตรฐานสำหรับน้ำมันเบรค (Department of Transportation) ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน เพื่อให้ยึดถือตรงกันว่าด้วยเกณฑ์ในการพิจารณาน้ำมันเบรค เบื้องต้นได้มีการกำหนดให้ เบื้องต้นได้มีการกำหนดให้น้ำมันเบรคปัจจุบันมี 3 ประเภทครับ คือ Dot3 Dot4 Dot5 สรุปได้ว่า
 1. น้ำมันเบรค DOT3 มีจุดเดือดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 205 องศาเซลเซียส นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วไป โดยจะมีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีก เช่น Dot3 ธรรมดา, Super Dot3 เป็นต้น
 2. น้ำมันเบรค DOT4 มีจุดเดือดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 230 องศาเซลเซียส นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วไป โดยจะมีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีก เช่น Super Dot4 เป็นต้น
 3. น้ำมันเบรค DOT5 มีจุดเดือดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 260 องศาเซลเซียส นิยมใช้กับรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ โดยจะมีการแบ่งแยกย่อยออกไปอีก เช่น Dot5.1 เป็นต้น
     ความแตกต่างระหว่างน้ำมันเบรค DOT3 น้ำมันเบรค DOT4 และน้ำมันเบรค DOT5 จะอยู่ที่จุดเดือดเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องคุณภาพขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อที่ตรงกับความต้องการของเรา อย่างไรก็ตามรถที่ใช้น้ำมันเบรค Dot3 สามารถใช้น้ำมันเบรค Dot4 ทดแทนได้ แต่ในทางกลับกันรถที่ใช้น้ำมันเบรค Dot4 ไม่สามารถลดกลับไปใช้น้ำมันเบรค Dot3 ได้ เหตุผลเพราะจุดเดือดของน้ำมันเบรค Dot3 นั้นน้อยกว่า ซึ่งอาจจะเกิดปัญหากับระบบเบรกได้

 

ย้อนกลับ


.

 

ราคาน้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์แพงไหม แล้วน้ำมันเบรคซื้อที่ไหนดี

          น้ำมันเบรคที่วางขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดมีหลากหลายราคา แต่โดยหลักแล้วราคาของน้ำมันเบรคมอเตอร์ไซค์นั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการในการผลิต สารตั้งต้นที่ใช้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมไปถึงชื่อเสียงของแบรนด์ตามแต่ละประเทศและพื้นที่ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการันตีคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์

     ดังนั้น เพื่อทำการเลือกซื้อน้ำมันเบรคที่เหมาะสม เรามีหลักการเบื้องต้นที่ควรพิจารณาประกอบในการเลือกซื้อจากประการต่อไปนี้
 1. คุณภาพของน้ำมัน : ควรเลือกใช้น้ำมันเบรคที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพดี เนื่องจากน้ำมันเบรคเป็นส่วนสำคัญของระบบเบรคที่มีผลต่อความปลอดภัยของการขับขี่ ควรตรวจสอบว่าน้ำมันเบรคที่ซื้อมีสภาพในการใช้งานที่ดีและไม่มีตำหนิ
 2. การเลือกใช้แบรนด์ : แนะนำให้เลือกใช้แบรนด์ที่เชื่อถือได้และมีการรีวิวที่ดีจากผู้ใช้ ความน่าเชื่อถือได้และมีชื่อเสียงดี มักจะส่งผลดีต่อประสบการณ์ขับขี่ของคุณอีกด้วย
 3. การรับรองมาตรฐาน : ควรตรวจสอบว่าน้ำมันเบรคมีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานทางด้านเทคนิค เช่น DOT (Department of Transportation) หรือ JIS (Japanese Industrial Standards)
 4. การระบายอากาศ : ควรเลือกน้ำมันเบรคที่ไม่มีอากาศผสมในน้ำมัน
 5. ราคา : นอกจากคุณภาพแล้ว ควรพิจารณาราคาในช่วงที่เหมาะสมและไม่สูงเกินไป เป็นราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับคุณภาพของสินค้า อาจจะลองเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับราคาที่เหมาะสมม
 6. ตัวแทนจำหน่าย : การเลือกซื้อน้ำมันเบรคโดยตรงกับตัวแทนจำหน่ายจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราได้มากขึ้น ทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือได้และมีความเชี่ยวชาญ
 7. บริการหลังการขาย : ควรพิจารณาการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำในการใช้งาน รีวิวและคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อเข้าใจถึงประสบการณ์จริง นอกจากนั้นแล้วจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากสินค้าปลอมได้

ย้อนกลับ


.

 

เปลี่ยนน้ำมันเบรคทั้งทระบบราคาเท่าไหร่ ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรคเมื่อไหร่ และควรเปลี่ยนน้ำมันเบรคที่ไหนดี

          ในส่วนของการดูแลระบบเบรก นอกจากเปลี่ยนยางและผ้าเบรคแล้ว การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเป็นส่วนหนึ่งที่หลายคนลืมไป อย่างน้อยควรหมั่นตรวจสอบระดับปริมาณน้ำมันเบรคให้อยู่ในระดับ Max ตลอด หากมีการพร่องควรรีบตรวจทันที ว่ารั่วหรือซึม หรือว่ามีอาการใดที่ผิดปกติหรือไม่ และหากจะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคแล้วล่ะก็ เราจะพบว่าในปัจจุบันสามารถเห็นได้ชัดเจน 3 แบบ ได้แก่
     แบบที่ 1 เติมให้เต็มเฉยๆ (ราคาไม่แพง) จะใช้เป็นการเติมน้ำมันเบรกใหม่เข้าไปผสมกับน้ำมันเบรกเก่าเฉยๆ โดยไม่ถ่ายน้ำมันเบรกเก่าออก แต่การเติมลักษณะนี้มีโอกาสที่จะทำให้ความชื้นถูกน้ำมันเบรคดูดซับไว้ภายใน (ประสิทธิภาพน้ำมันเบรคลดลงไปกว่า 60-70%) 
     แบบที่ 2 เครื่องไล่ลมเบรก (ราคาปานกลาง) ใช้ลมดันน้ำมันเบรกเก่าออกและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกใหม่เข้าไป พร้อมกับย้ำเบรกเพื่อไล่ลมไปด้วย ประมาณ 30 - 40 นาที แต่การเติมลักษณะนี้มีโอกาสที่จะทำให้ความชื้นถูกน้ำมันเบรคดูดซับไว้ภายใน (ประสิทธิภาพน้ำมันเบรคลดลงไปกว่า 60-70%) นอกจากนั้นยังมีโอกาสทำให้เกิดปัญหา "เบรคจม" จากการย้ำเบรคของช่างจนทำให้ลูกยางเบรคขูดกับเหล็กจนยางเสื่อมสภาพ
     แบบที่ 3 เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบ (ราคาแพง) ใช้น้ำมันเบรกใหม่ไล่น้ำมันเบรกเก่า เป็นระบบปิด ซึ่งปราศจากความชื้น 99.99% เสร็จได้ภายใน 10 นาที ไม่ต้องใช้ลม ไม่ต้องย้ำเบรก ซึ่งดีกับรถลูกค้าอย่างเรามากๆ (ประสิทธิภาพน้ำมันเบรคยังคงเดิม) 

          การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคนั้นหลายคนอาจสงสัยว่าควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม ในส่วนนี้เราได้รวบรวมแนวคิดที่ใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณเปลี่ยนน้ำมันเบรคคร่าวๆ ได้ดังนี้
 1. ในกรณีปกติ เราควรเปลี่ยนน่ำมันเบรคทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ 1-2 ปี เพราะน้ำมันอาจจะเสื่อมคุณภาพในการใช้งาน อย่างไรก็ตามโดยมากน้ำมันเบรกจะมีอายุการใช้งานถึง 80,000 กิโลเมตร หรือเฉลี่ยแล้ว 3 ปี แล้วแต่อะไรถึงก่อน
 2. กรณีผู้ที่มีพฤติกรรมขับรถด้วยความเร็วสูง ผู้ที่บรรทุกหนักหรือวิ่งทางลาดชันบ่อยๆ และใช้งานเบรคหนักต่อเนื่องบ่อย ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรคทุกๆ 1 ปี
 3. ในกรณีฉุกเฉินระหว่างขับขี่ หากเราใช้เบรคมากเกินไปจนรู้สึกว่าเบรคไม่อยู่ หรือได้กลิ่นไหม้จากการเบรค ให้รีบจอดรถข้างทางเพื่อตรวจสอบ รอประมาณ 30 นาทีเพือให้ระบบเบรคเย็นลงแล้วจึงค่อยๆ ขับต่อไปช้าๆ โดยใช้เกียร์ต่ำเพื่อให้การใช้เบรคเป็นไปเท่าที่จำเป็น
 4. กรณีที่ไม่ทราบจริงๆ เมื่อใช้รถถึงประมาณ 10,000-20,000 กิโลเมตร ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรค
 5. กรณีมีสัญญาณที่บ่งบอกผู้ขับขี่ว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรคมีอยู่หลายข้อ ได้แก่ ประสิทธิภาพการเบรคแย่ลง ทำการเบรคได้ยากขึ้น มีเสียงดังทุกครั้งที่ทำการเบรค จานเบรคเป็นรอย รวมถึงน้ำมันเบรคมีสีคล้ำ
     อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่ามีเครื่องมือวัดคุณภาพของน้ำมันเบรคว่าน้ำมันเบรกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรเปลี่ยนแล้วหรือไม่ วิธีนี้จะใช้เวลาไม่นานเพียง 2-3 วินาทีก็ทราบผลแล้ว ซึ่งนอกจากนั้นยังสามารถปรับตั้งค่าการวัดได้อีกด้วย โดยจะบอกค่าเป็นตัวเลขและสภาพไปพร้อมกัน คือ น้ำมันเบรคใหม่ (0) น้ำมันเบรคปกติ (1-2) ควรเปลี่ยน (3-4) อันตราย (5-6) ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถมากเลยทีเดียว จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเดาว่าควรจะเปลี่ยนช่วงไหน ช่วยประหยัดเงินและประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียว

          ถ้าเราไม่แน่ใจและเป็นผู้ใช้รถที่ไม่สัดทัดในเรื่องการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์มากนัก การเปลี่ยนน้ำมันเบรกอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการที่จะทำเอง ก็ให้นำรถยนต์ของท่านเข้าไปใช้บริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานทั่วไปหรือร้านค้าที่เราไว้ใจ เพื่อให้ผู้ที่ชำนาญเข้ามาตอบข้อสงสัยรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือตรวจเช็คสภาพรถ รวมถึงด้านอื่นที่จำเป็น จนทำให้เรารู้อาการของรถและใช้รถอย่างปลอดภัย โดยระยะเวลาหรือระยะทางของแต่ละบริษัท อาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็เป็นพื้นฐานใกล้เคียงกันการเข้าศูนย์บริการรถยนต์

ย้อนกลับ
 


.

 

Duckhams สูตรไหนเหมาะกับอะไรบ้าง

 

   BRAKE FLUID DOT3
   น้ำมันเบรค Duckhams
   น้ำมันเบรค DOT3

 


   BRAKE FLUID DOT4
   น้ำมันเบรค Duckhams
   น้ำมันเบรค DOT4

 

ย้อนกลับ


ติดต่อสอบถามได้ทุกช่องทาง

enlightened Website   enlightened Facebook   enlightened Youtube   enlightened Instagram
enlightened Tiktok   enlightened โทร.(ฝ่ายขาย) enlightened โทร.(การตลาด) enlightened โทร.(บัญชี) 
enlightened LINE​ OA   enlightened ที่ตั้งสำนักงาน  enlightened ตัวแทนจำหน่าย

<< น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์สังเกตยังไงเลือกยี่ห้อไหนดี เกียร์ธรรมดากับเกียร์ออโต้เลือกน้ำมันเครื่องต่างกันอย่างไร ใช้น้ำมันเครื่องราคาถูกดีไหมแล้วควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ดี ดั๊กแฮมส์ | Duckhams

บทความ ที่เกี่ยวข้อง

oliver-white-joins-smalley-in-expanded-duckhams-yuasa-racing-with-redline-line-up

OLIVER WHITE JOINS SMALLEY IN EXPANDED DUCKHAMS / YUASA RACING WITH REDLINE LINE-UP.

Duckhams Yuasa Racing with Redline is delighted to finalise its 2022 line-up as multiple race and title winner Oliver White joins the team.
อ่านเพิ่มเติม
carrera-cup-championship-leader-cammish-takes-record-breaking-third-crown
STORIES

CARRERA CUP CHAMPIONSHIP LEADER CAMMISH TAKES RECORD-BREAKING THIRD CROWN.

Racing driver Dan Cammish made history at Brands Hatch by becoming the first driver in the series’ history to take three overall championship titles.
อ่านเพิ่มเติม