|| Duckhams || น้ำมันเครื่องเบนซิน || น้ำมันเครื่องดีเซล || น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ || น้ำมันเกียร์ || น้ำมันเบรค || น้ำมันไฮดรอลิค || น้ำยาหล่อเย็น || ตัวแทนจำหน่าย
Duckhams มีสูตรไหนเหมาะกับอะไรบ้าง << คลิ๊ก
สาระควรรู้โดยน้ำมันเครื่อง Duckhams
- น้ำมันเครื่อง คืออะไร ลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ?
- หน้าที่สำคัญของน้ำมันเครื่อง ?
- น้ำมันเครื่องมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร ?
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ vs น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ?
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ราคาต่างกันมากไหม เปลี่ยนที่ไหนดี ?
น้ำมันเครื่อง หรือ “น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ (Motor Oil หรือ Engine Oil)” คือ สารหล่อลื่นที่ใช้ภายในเครื่องยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อการทำงานของเครื่องยนต์ช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในรถยนต์ทำให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ถนอนเครื่องยนต์มากขึ้น
พูดง่ายๆ คือ ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานชิ้นส่วนต่างๆ ภายในระบบเครื่องยนต์ซึ่งเป็นโลหะย่อมต้องมีการเสียดสีกันโดยตรงอยู่ตลอดเวลา น้ำมันเครื่องนี่แหล่ะที่เข้าไปคั่นกลางระหว่างผิวของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ทำหน้าที่เปรียบเสมือนฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนของโลหะที่คอยช่วยให้อะไหล่ทุกชิ้นภายในของเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทุกครั้งที่เครื่องยนต์กำลังทำงานน้ำมันเครื่องที่ถูกเติมเข้าไปในเครื่องยนต์นั้นจะสูบฉีดไหลเวียนเข้าไปหล่อลื่นตามชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นกระทบกันโดยตรง ลดการเสียดสีที่เกิดขึ้นระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงาน ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์
น้ำมันเครื่องจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่รถยนต์ทุกคันจะขาดไม่ได้ โดยน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ดีมีคุณภาพนั้นจะเป็นตัวช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่รถยนต์ของคุณได้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง, อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงเสียงภายในเครื่องยนต์ จนอาจกล่าวได้ว่า "น้ำมันเครื่อง นี่แหละคือหนึ่งปัจจัยหลักสำคัญที่มีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์โดยตรง"
หน้าที่สำคัญของน้ำมันเครื่องนั้น หลักๆ คือการเข้าไปช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สตาร์ทติดง่าย ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้นานขึ้น กล่าวคือ ถ้าไม่มีน้ำมันเครื่องเข้าไปหล่อลื่นเครื่องยนต์ ก็จะทำให้เครื่องยนต์ภายในมีความร้อนสะสมบนชิ้นส่วนที่เสียดสีกัน และทำให้เกิดการสึกหรอได้นำไปสู่อาการเครื่องยนต์เสียได้ ซึ่งเบื้องต้นเราสามารถสรุปหน้าที่ของน้ำมันเครื่อง 5 ข้อคร่าวให้เข้าใจง่ายได้ดังนี้
1. ช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ ลดการเสียดสีและการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ลดแรงฝืด/แรงเสียดทาน
2. ระบายความร้อนให้กับชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ รักษากำลังอัดของเครื่องยนต์ให้เครื่องยนต์มีกำลัง
3. รักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์
4. ลดการเกิดสนิม การกัดกร่อน คราบเขม่า และการสะสมของสิ่งสกปรก (ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันภายในเครื่องยนต์ได้)
5. ลดปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ต่อต้านการเกิดฟองอากาศ
น้ำมันเครื่องมีลักษณะแตกต่างกันมากมายหลายชนิดหลายเกรดด้วยกัน ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้โดยสรุป ดังนี้
1. แบ่งประเภทตามลักษณะของน้ำมันเครื่องที่นิยมใช้กันทั่วไป ได้แก่
น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral Oil)
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic)
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic)
2. แบ่งตามลักษณะความหนืดของน้ำมันเครื่อง ได้แก่
น้ำมันเครื่องเกรดเดียว (Monograde) ที่สำหรับสภาพอากาศหนาวหรือสภาพอากาศร้อน
น้ำมันเกรดรวม (Multigrade) ที่พัฒนาให้สามารถใช้ได้ทั้งสภาพอากาศร้อนและเย็น
3. แบ่งตามมาตรฐานการใช้งานน้ำมันเครื่อง
มาตรฐานจากทางฝั่งอเมริกา API **โดยส่วนใหญ่ประเทศไทยจะใช้ของ “API” มากที่สุด
API (SA,SB,SC,SD,... ,SN) สำหรับน้ำมันเครื่องเบนซิน
API (CA,CB,CC ,CD,... ,CJ) สำหรับน้ำมันเครื่องดีเซล
API (S../C..) สำหรับน้ำมันเครื่องที่ใช้ได้ทั้งเบนซินและดีเซล
มาตรฐานทางฝั่งยุโรป ACEA (Association des Constracteuis Europeen des Automobiles) ซึ่งเป็นสมาคมยานยนต์แห่งยุโรป ยกตัวอย่างเช่น ACEA (A3/B3, A3/B4) ตัวอักษร A หมายถึงเครื่องเบนซิน ตัวอักษร B คือเครื่องดีเซล ตัวอักษร C สำหรับรถรุ่นใหม่ที่มีตัวกรองอนุภาคไอเสียหรือ DPF ตัวอักษร E จะเหมาะสำหรับรถใช้งานหนัก
มาตรฐานทางฝั่งญี่ปุ่น JASO (Japanese Automotive Standard Organization )
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic ?) คือ น้ำมันหล่อลื่นที่ถือว่าบริสุทธิ์และมีคุณภาพมากที่สุด เพราะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการกลั่น ทำให้ได้น้ำมันเครื่องที่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนน้อย
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ : ใช้ได้ประมาณ 10,000-15,000 กิโลเมตร มีอายุประมาณ 1 ปี
- น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ : มีราคาแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีราคาแพงที่สุดเพื่อถนอมการใช้งานรถยนต์คู่ใจให้อยู่กับเราไปนานๆ
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ คือ น้ำมันหล่อลื่นที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและเติมสารสังเคราะห์เพิ่ม ทำให้มีคุณสมบัติสูงขึ้นจากน้ำมันเครื่องธรรมดา แต่อย่างไรคุณภาพก็ยังต่ำกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราห์แท้
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ : ใช้ได้ประมาณ 7,000 กิโลเมตร อายุเพียง 6-9 เดือน เท่านั้น
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ : มีราคาแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ประมาณหนึ่ง เหมาะกับผู้ที่ ต้องการประหยัดงบ และยืดอายุเครื่องยนต์ระดับปานกลาง
ย้อนกลับ
มีคำถามมากมายว่า "จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกี่กิโลดี ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกกี่เดือน เปลี่ยนน้ำมันเครื่องร้านทั่วไปได้ไหม มาตรฐานการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องราคาเท่าไหร่ น้ำมันเครื่องรถเก๋งราคาแตกต่างกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์มากไหม"
โดยทั่วไปเรามักสรุปกันง่ายๆ ว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 10,000 กิโลเมตร เน้นราคาประหยัด โดยเลือกร้านที่ราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งจริงๆ แล้วมีปัจจัยสำคัญอีกหลายประการ สำหรับบางคนที่ประสบปัญหาดังกล่าวในวันนี้ DUCKHAMS มีทริกง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ
- วิธีที่ 1. ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ควรต้องพิจารณายึดถือตามที่กำหนดไว้ในคู่มือของรถแต่ละคัน ซึ่งจะอธิบายถึงระยะการเปลี่ยนถ่ายตามลักษณะของการใช้งานและระยะเวลาที่ใช้งาน ชนิดความหนืด เกรดของน้ำมันเครื่อง และมาตรฐานคุณภาพขั้นต่ำของน้ำมันเครื่องที่รถควรใช้เอาไว้ด้วย
- วิธีที่ 2. สำหรับบางคนที่เลือกเปลี่ยนตามประเภทของน้ำมันเครื่องที่ใช้ เช่น
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เปลี่ยนถ่ายที่ 15,000-20,000 กิโลเมตร หรือ ทุก 1 ปี โดยประมาณ
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนถ่ายที่ 10,000-15,000 กิโลมตร หรือ ทุก 6-9 เดือน
น้ำมันเครื่องธรรมดา เปลี่ยนถ่ายที่ 7,000-7,500 กิโลเมตร หรือ ทุก 6 เดือน
- วิธีที่ 3. เช็กจากป้ายที่ร้านเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ติดรถมา ป้ายนั้นจะกำหนดเลขไมล์ของรถที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนถ่าย สามารถดูเทียบกับเลขไมล์ของรถได้ว่าเป็นระยะที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตาม หากใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่มีคุณภาพสูงก็จะทำให้สามารถยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายของน้ำมันเครื่องได้ดียิ่งขึ้นต่อการเปลี่ยนถ่ายแต่ละครั้ง แต่ราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ก็จะมีราคาสูงกว่าประเภทอื่น แต่ก็แลกมากับความคุ้มค่าในระยะยาวทั้งในเรื่องคุณภาพที่ได้ นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงรักษาเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
น้ำมันเครื่อง DUCKHAMS ทุกสูตรผสมสารเพิ่มคุณภาพที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติในการช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์ ลดอาการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆ รักษาความสะอาดให้กับเครื่องยนต์ ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ และยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ได้ เลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพดีเพื่อรถที่คุณรัก อย่าลืมเลือก DUCKHAMS
ขอแนะนำ น้ำมันเครื่อง DUCKHAMS น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐานสากลสำหรับรถยนต์ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซล และสำหรับรถจักรยานยนต์
- น้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล DUCKHAMS << คลิ๊ก
DIESEL GARD PRO 5W-30 (มาตรฐาน API CK-4)
DIESEL GARD PRO 10W-30 (มาตรฐาน API CI-4)
- น้ำมันเครื่องยนต์เบนซิน DUCKHAMS << คลิ๊ก
QS SAE 5W-30 (มาตรฐาน API SP)
QS SAE 5W-40 (มาตรฐาน API SP)
QXR SAE 5W-40 (มาตรฐาน API SP)
- น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ DUCKHAMS << คลิ๊ก
QT RACING SAE 10W-50 (มาตรฐาน JASO MA2)
QT PLUS SAE 10W-30 (มาตรฐาน API SL / JASO MA2)
QT PROTECT SAE 20-40 API (มาตรฐาน API SF)
- น้ำมันเกียร์ DUCKHAMS << คลิ๊ก
- น้ำมันเบรค DUCKHAMS << คลิ๊ก
- น้ำมันไฮดรอลิค DUCKHAMS << คลิ๊ก
- น้ำยาหล่อเย็น DUCKHAMS << คลิ๊ก
ติดต่อสอบถามได้ทุกช่องทาง
Website Facebook Youtube Instagram
Tiktok โทร.(ฝ่ายขาย) โทร.(การตลาด) โทร.(บัญชี)
LINE OA ที่ตั้งสำนักงาน ตัวแทนจำหน่าย
เบลเยียม 
เดนมาร์ก
เยอรมนี
กรีซ
ไอร์แลนด์
ลักเซมเบิร์ก
มอลตา
เนเธอร์แลนด์
นอร์เวย์
โปแลนด์
โรมาเนีย
รัสเซีย
สวีเดน
อัฟกานิสถาน
จอร์แดน
คูเวต
เลบานอน
เนปาล
ปากีสถาน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
มาเลเซีย
เมียนมาร์
สิงคโปร์
ไต้หวัน
ไทย
เวียดนาม